Thursday, November 19, 2015

ออกเดินทางไปคุยกับตัวเองที่ “โตเกียว” (DAY1 Part 2)



 ชั้นตื่นขึ้นมาอีกทีตอน 6 โมงเย็นเตรียมออกเดินทางไปชิบูย่า อาบน้ำเปลี่ยนชุดเสียใหม่ ให้สมกับที่จะไปเดินในที่แหล่งวัยรุ่นอย่างชิบูย่า

ตอนนั้นท้องฟ้ามืดแล้ว อากาศเย็นขึ้นไปอีก ชั้นเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินเช่นเคยเพื่อไปลงสถานีชิบูย่า เมื่อชั้นเดินลงจากรถไฟที่สถานีชิบูย่า ชั้นก็พบว่าคนเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ที่นี่คงจะป๊อบปูล่าจริงๆ ก่อนออกจากตัวสถานี ชั้นเดินผ่านหน้าต่างกระจกที่สามารถมองออกไปเห็นทางข้ามชิบูย่าได้ คนเยอะมากจริงๆ ดูคึกคักมากๆ ชั้นรีบเดินลงจากตัวสถานีเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศจริงบริเวณทางข้ามชิบูย่า




 ชั้นมองขึ้นไปตามตึกต่างๆ เห็นป้ายโฆษณามากมาย โดยเฉพาะศิลปินที่กำลังออกอัลบั้มในช่วงนั้น ชั้นเคยเห็นบรรยากาศนี้มาแล้วตามซีรี่ส์ ภาพยนตร์ หรือรายการทีวีต่างๆ คราวนี้ชั้นได้มาเห็นกับตาตัวเองสักที

ชั้นเดินข้ามถนนชิบูย่าไปกับฝูงคนจำนวนมาก เพื่อเดินดูบรรยากาศร้านค้าต่างๆ และหาร้านอาหารดีๆสักร้าน ชั้นเลือกเข้าไปในร้านราเมง ที่ต้องซื้อคูปองจากตู้หน้าร้านก่อน แล้วค่อยเดินเข้าไปนั่งในร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่มานั่งในร้านนี้



เมื่อชั้นเดินออกมา อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายต่างชาติผิวดำ เดินเข้ามาถามว่า พอจะรู้จักบาร์ดีๆมั้ย ชั้นบอกว่าชั้นไม่รู้ จากนั้นก็ชวนชั้นคุยว่า มาจากไหน มากี่วัน แล้วก็จะชวนไปดื่มเบียร์ด้วยกัน แต่ชั้นก็ปฎิเสธไป


ชั้นเดินออกมายืนแถวทางข้ามชิบูย่าอีกครั้ง ชั้นชอบบริเวณนี้จริงๆนะ ในขณะที่ชั้นกำลังยกกล้องจะถ่ายรูป ชั้นก็พบว่ากล้องมือถือของชั้นมันหยุดอยู่ตรงกล้องหน้า ชั้นมองเห็นผู้ชายต่างชาติ (ไม่ใช่คนเดียวกัน) กำลังมองมาที่กล้องพอดี ชั้นแอบตกใจเล็กน้อย ประกอบกับเขาเองก็ตกใจเหมือนกันที่เขาไปปรากฎอยู่ในหน้าจอเรา เขาก็ขอโทษเราไป เราก็บอกว่าไม่เป็นอะไร จากนั้นเขาก็ชวนคุยว่าเรามาจากไหน ทำอะไร อีกเช่นเคย ผู้ชายที่ชั้นคุยด้วยอยู่นี้เป็นชาวบราซิลและทำงานที่ญี่ปุ่นมา 13 ปี แล้วกำลังจะกลับประเทศเขา เขาก็ชวนเราไปเดินช็อปปิ้งห้างที่เขาบอกว่าน่าสนใจ แต่ชั้นก็บอกปัดปฎิเสธแบบมีมารยาทไปเช่นเคย 


สักประมาณเกือบ 4 ทุ่มชั้นก็นั่งรถไฟกลับที่พัก ไปนอนเอาแรงเพื่อเดินทางต่อวันถัดไป

แต่ก่อนจะเข้านอน ชั้นลงมานั่งที่ล็อบบี้ของที่พัก เพราะไวไฟแรงกว่าที่ห้องชั้น ชั้นจำเป็นต้องใช้เน็ตเพื่อค้นข้อมูลต่อไป สักพักก็มีชายชาวต่างชาติที่มาพักที่นี่เหมือนกัน เดินมานั่งใกล้ๆกัน พร้อมกับโน๊ตบุ๊ค เขาก็ชวนเราคุยเรื่องที่เที่ยว ชายคนนี้เกิดที่อิตาลีแต่ไปโตที่สเปน ก่อนมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น เขาเดินทางไปประเทศไทยมาก่อนและชมว่าเมืองสวยมาก เขากำลังจะเดินทางกลับยุโรปในเช้าถัดไป เขาแนะนำที่เที่ยวต่างๆในโตเกียวให้ชั้น ชั้นสามารถจับความรู้สึกของเขาได้ว่า เขาเหมือนไม่อยากกลับยุโรปเลย ไม่ต่างจากความรู้สึกของชั้นในตอนนั้นที่ไม่อยากนึกภาพตอนที่กำลังเดินทางกลับไทยเลยจริงๆ

เกือบๆเที่ยงคืนชั้นก็เดินขึ้นไปห้องนอน เปิดทีวีช่องญี่ปุ่นดูสักหน่อย ตอนเรียนมหาลัย ช่วงว่างๆ ชั้นจะพยายามหาช่องญี่ปุ่นดูทางออนไลน์ บางวันสัญญาณก็ไม่ค่อยดี ตอนนี้ได้ดูแบบสบายๆละ แต่ด้วยความที่ดึกมากแล้ว ชั้นคงต้องนอนได้แล้ว


ชั้นปิดไฟห้องนอนทั้งหมด ห้องมืดมาก ถ้าเป็นที่อื่นชั้นคงกลัวผีไปแล้ว บางทีชั้นปิดไฟห้องนอนบ้านตัวเองชั้นยังแอบกลัวๆเลย แต่อยู่ที่นี่ไม่น่ากลัวสักนิด อาจจะเป็นเพราะชั้นไม่คิดถึงมัน และ ณ ตอนนั้นชั้นมีแต่ความอุ่นใจด้วยล่ะ

ขณะหลับตา ชั้นก็ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ เหมือนในฝันเลย เหมือนที่หวัง เหมือนที่วาดภาพไว้ตั้งแต่ ม. ปลายเลย  มีความสุขจริงๆนะ

0 comments:

Post a Comment

Copyright © 2014 I just wanna be a freelancer