ลูกความที่รัก
วันนี้อยากจะพูดถึงลูกความที่เคยเจอๆมา
ลูกความนั้นก็คือลูกค้าดีๆของเรานี่แหละ
ไม่มีลูกความก็ไม่มีเงิน ใช้คำว่าลูกความก็เพียงแค่ให้รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมาย
ชั้นเป็นคนที่ไม่ชอบการว่าความในชั้นศาล
แต่ชั้นรักการให้คำปรึกษาแก่ลูกความมากๆ เวลามีลูกความมาถามนู่นถามนี่ ถึงแม้จะถามเยอะ
ถึงเค้าไม่ค่อยรู้หรือไม่เคยรู้เรื่องดังกล่าวมาก่อนเลย ชั้นก็เต็มใจตอบ
เต็มใจอธิบาย ไม่เคยหงุดหงิด ไม่เคยรำคาญที่เค้ามาถามอะไรเราเยอะแยะ
เพราะทำงานเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ก็ต้องพร้อมและเต็มใจที่จะให้คำปรึกษา และถ้าเค้ารู้เค้าคงไม่มาถาม
ไม่ให้เรามาจัดการให้
แต่ก็มีลูกความอีกประเภทนึง
ประเภทที่พยายามโชว์ภูมิที่ตัวเองมีทั้งๆเรื่องที่เขาเข้าใจมันไม่ถูกต้อง ด้วยความที่เราอยู่สาย
Corporate ซึ่งเกี่ยวกับด้าน หุ้นส่วน บริษัท
ทำให้เราได้มีโอกาสคุยกับกรรมการบริษัท เยอะ ซึ่งเราเข้าใจดีว่าการที่คนๆนึงจะมาเป็นกรรมการบริษัท
มารับหน้าที่บริหารดูแลบริษัทได้ ต้องเป็นคนที่มีความรู้ในระดับนึงเลย
ถ้าเรื่องไหนที่เราทำผิดทำพลาดเอง
เค้าจะมาโวย มันก็ไม่แปลก ก็เราผิดเองนี่ ก็น้อมรับคำต่อว่า
แต่เรื่องไหนที่เรามั่นใจมากๆว่าเราไม่ได้ทำผิดพลาดอะไร
แล้วคุณลูกความมาต่อว่า ทั้งๆที่เค้าเป็นคนเข้าใจอะไรผิดเอง อันนี้มันก็ไม่ไหว
ถ้าเค้าเข้าใจผิด
หรือเราไปทำให้เค้าเข้าใจผิด เราก็พร้อมที่จะอธิบายให้เค้าเข้าใจในทางที่ถูกต้องขึ้น
ถ้าเขาฟังก็ดีไป
แต่ไอ้กรณีที่ไม่ฟังเนี่ยสิ
กรณีที่เค้าเข้าใจว่าเค้ารู้ทุกอย่าง ถูกต้องทุกอย่าง
ทั้งๆที่เราฟังอย่างไงก็คือเค้าเข้าใจผิดเนี่ย มันน่าหงุดหงิดดีจริงๆนะ
กับการที่ต้องมาเจอลูกความที่ต้องการเอาชนะที่ปรึกษากฎหมายของตัวเอง โดยการตะแบงๆ
เถียงข้างๆคูๆ พออธิบายว่ามันคืออย่างงี้ๆ ไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจ ก็ยังจะแถออกมา
ให้เรายอมเป็นฝ่ายผิดให้ได้เนี่ย มันเพื่ออะไรกัน
จะจ้างชั้นทำไมถ้าคุณคิดว่าคุณรู้ดีกว่า
และด้วยความที่เราทำงานภายใต้บริษัท
เราก็ต้องรักษาภาพบริษัท เราไม่สามารถต่อล้อต่อเถียง
หรือใช้น้ำเสียงที่ไม่ดีกับลูกความได้ เพราะถ้าเราทำไป เค้าก็อาจจะไปฟ้องหัวหน้า
หาว่าเราพูดจาไม่ดีอีก เราก็จะโดนหัวหน้าว่าอีก มีแต่เสียกับเสีย ทั้งๆที่ใจเราก็อยากจะบอกจริงๆว่า “ถ้าคิดว่าตัวเองรู้เยอะขนาดนี้
ทำเองเลยมั้ย ทำไมต้องมาจ่ายค่าจ้างให้เราเดือนละเป็นแสนเนี่ยฮะ
ถ้าเป็นชั้นเป็นคุณชั้นจะทำเอง” จะได้รู้กันไปเลยว่าถ้าไปทำตามที่เค้าเข้าใจมันจะเป็นยังไง
0 comments:
Post a Comment