ประเมินงานกลางปี (Half-Year Evaluation)
คิดว่าในหลายๆบริษัทน่าจะมีคล้ายๆกัน
ที่แต่ละปีจะมีหัวหน้ามาคอยประเมินการทำงานของเราว่า ดี แย่ ยังไง ควรพัฒนาตรงไหน
แล้วก็พูดถึงโบนัส ปรับเงินเดือน เลื่อนขั้นว่ากันไป
สำหรับชั้นในวันนี้
ชั้นโดนประเมินกลางปี ซึ่งต่างกับคนอื่น ปกติแล้วจะประเมินกันปีละครั้ง
คือตอนสิ้นปีเลย แต่เนื่องจาก ปลายปีที่แล้วอายุงานชั้นเพียงแค่ 6 เดือน ยังอยู่ในจุดที่ยังไม่ค่อยรู้งานสักเท่าไหร่นัก
ตอนนั้นก็โดนติไปว่า ประสิทธิภาพในการทำงานของเรามันยังไม่เป็นอย่างที่เค้าคาดหวังไว้
ซึ่งเราก็รับรู้เรื่องนี้มาโดยตลอดว่าตอนนั้นทำงานค่อนข้างแย่ แล้วก็ได้ปรับเงินเดือนขึ้น
2000 … ก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้เลย
จากนั้นหัวหน้าก็ตกลงกับเราว่า กลางปีหน้า (นั่นก็คือตอนนี้) จะประเมินอีกที
และ ณ วันนี้ก็มาถึง…วันที่ชั้นรอคอย ชั้นเดินเข้าไปหาหัวหน้าแจ้งถึงเรื่องประเมินงานกลางปีของชั้น
หัวหน้าก็ไปคุยกับ MD และก็มาคุยกับชั้นส่วนตัว
และความพยายามที่ทุ่มเทมาตั้งแต่ต้นปีก็ไม่เสียเปล่า ได้รับคำชมซะที!!! หัวหน้าบอก ทำงานดีขึ้นกว่าปีก่อนเยอะ..(แน่นอน
เพราะปีที่แล้วแย่มาก) แต่เค้าก็ยังมองว่าเราทำงานแบบมีลิมิต
ให้ทำตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ยังมองไม่ไกล อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์น้อย (อืมม
อันนี้ชั้นก็แอบเห็นด้วย เพราะบางทีชั้นได้งานแบบทอดยาว หลายขั้นตอน
อยู่ตรงขั้นตอนไหน ก็มองแต่ขั้นตอนนั้น บางครั้งก็ลืมคิดเผื่อ จุดตรงนั้นไป)
และก็ได้ปรับเงินเดือนขึ้น 5,000 ..ดีใจในระดับหนึ่งเรื่องเงิน
แต่เรื่องการทำงาน ชั้นค่อนข้างมีกำลังใจขึ้นมาก
จะว่าไป ณ
จุดที่ชั้นยืนอยู่มันค่อนข้างลงตัวอยู่นะ มีหัวหน้าดี เข้าใจ ทำงานเก่ง
ได้เรียนรู้งานจากเขา สอนงานเราดี เพื่อนร่วมงานตอนนี้ก็โอเค สนิทสนมกัน
คนที่ไม่เราไม่ชอบ ก็ลาออกไปแล้ว ตอนนี้สภาวะแวดล้อมในที่ทำงานดีพอสมควรเลยนะ
แต่เราก็ยังอยากเป็น Freelancer อยู่ดี
หลังโดนประเมินงานก็โทรไปหาแม่
เล่าให้ท่านฟังเรื่องนี้ แม่ก็ดีใจด้วย
แต่ไม่เห็นด้วยที่เราจะออกงานปลายปีนี้เพื่อไปเป็น Freelancer
เพราะมันเสี่ยงมาก เรามันยังไม่แข็งพอ อยากให้เราทำงานสัก 2 ปีไปก่อน ให้รู้อะไรมากกว่านี้ มีประสบการณ์เยอะแล้วค่อยลองไปทำดู
ที่จริงเราก็แอบเห็นด้วยอยู่นะ เพราะตอนนี้งานที่ตั้งใจจะเอาไปเป็น
Freelancer เพื่อรับงานนี้เอง ยังมีจุดที่เรายังเข้าไปถึงเยอะแยะเลย
เริ่มลังเลนิดนึงละ คือ…เป็น Freelancer น่ะมันเป็นแน่ แต่มันถึงเวลาของเราหรือยังเนี่ยสิ…น่าคิด
0 comments:
Post a Comment